ชากุหลาบกินแล้วตัวหอม ดื่มแล้วตัวหอมจริงไหม?

ชาตัวหอม” เป็นชาดอกไม้เครื่องดื่มที่เริ่มติดเทรนด์มาได้สักระยะแล้ว หลายคนที่ได้ยินชื่อชาประเภทนี้ก็อาจจะเกิดความสงสัยกันว่ามีจริงหรือ? อย่างชากุหลาบกินแล้วตัวหอมที่หลาบแบรนด์โฆษณากันนั้นดื่มแล้วช่วยให้กลิ่นกายหอมขึ้นจริงหรือไม่ วันนี้เราจะพาทุกท่านมาไขข้อสงสัยกัน

ชาตัวหอม คืออะไร?

ประเทศไทยในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์มีการคิดค้นสูตรชาตัวหอมขึ้นมา เพื่อให้เหล่านางในได้ดื่มกันเป็นประจำ ช่วยให้กลิ่นกายหอมอ่อนๆ เย้ายวน เพิ่มเสน่หาและความอภิรมย์ในยามต้องถวายตัว โดยปกติแล้วชาสูตรดั้งเดิมนั้นไม่ได้มีกุหลาบผสมอยู่ด้วย แต่ส่วนประกอบหลักจะมีอยู่ด้วยกัน 6 ชนิดได้แก่  ชากุหลาบ ขลู่ ใบบัวบก ดอกกระดังงา ดอกจำปีและดอกลีลาวดี โดยส่วนผสมแต่ละชนิดจะมีฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่สรรพคุณโดยรวมคือจะช่วยขับเหงื่อ ขับของเสียในร่างกาย โดยกลิ่นหอมๆ จะออกมาพร้อมกับเหงื่อนั่นเอง ลักษณะคล้ายกับบางชนชาติที่ทางอาหารที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศปริมาณมาก กลิ่นกายก็จะมีกลิ่นเครื่องเทศด้วยนั่นเอง ทั้งนี้การดื่มชาตัวหอมให้ได้ผลจะต้องดื่มเป็นประจำติดกันเป็นเดือนๆ แต่เพราะว่าชาไม่มีส่วนผสมของใบชาจริงๆ ไม่มีคาเฟอีน ไม่ขม จึงสามารถดื่มได้ตลอด จิบได้เรื่อยตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน เพราะกลิ่นของชาจะเป็นเพียงกลิ่นหอมอ่อนๆ เท่านั้น หากเป็นคนที่ชอบทานอาหารกลิ่นแรงกลิ่นฉุน ก็เป็นไปได้ว่าดื่มชาตัวหอมแล้วจะไม่ได้ผล

ปัจจุบันนี้แม้ชาตัวหอมหลายยี่ห้อจะผลิตขึ้นโดยการอ้างอิงสูตรดั้งเดิม แต่ก็มีการปรับสูตรเพิ่มเติมมากมายเช่นเดียวกัน ส่วนผสมที่นิยมใส่เพิ่มมีด้วยกันหลายชนิด อาทิ กุหลาบมอญ พิกุล ใบเตย หอมหมื่นลี้ เป็นต้น บางสูตรอาจจะใส่กุหลาบมากหน่อยและจำหน่ายในรูปแบบชากุหลาบกินแล้วตัวหอมก็มีเช่นเดียวกัน  

สรุปกินชากุหลาบกินแล้วตัวหอมจริงไหม?

สรุปได้ว่าผลิตภัณฑ์ชากุหลาบกินแล้วตัวหอมนั้นมีจำหน่ายอยู่จริง ส่วนผสมเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติจำพวกดอกไม้หรือสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมหลายชนิดรวมกัน แต่ดื่มแล้วได้ผลจริงไหมก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวันด้วยโดยเฉพาะลักษณะของอาหารที่ทาน สำหรับใครที่อยากตัวหอมแนะนำให้ดื่มชาตัวหอมติดต่อกันอย่างน้อย 1 เดือนและพยายามงดอาหารกลิ่นแรงไปด้วยพร้อมๆ กัน จากนั้นลองสอบถามความเห็นจากคนใกล้ชิดดูว่ากลิ่นกายเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่ เพราะหากตัวเองอาจไม่รู้ตัวเนื่องจากชินกับกลิ่นกายของตัวนั่นเอง

Your Cart
0