ชาดอกมะลิเป็นชาที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มชาดอกไม้ วิธีการชงก็แสนง่าย แถมส่วนผสมก็น้อยมาก ทำให้ใครก็สามารถชงชามะลิดื่มเองได้ แต่ว่าถ้าจะชงให้รสชาติดีและมีกลิ่นหอมสดชื่นยาวนานยิ่งขึ้น ก็ต้องมีเคล็ดลับกันบ้าง ว่าแต่ ชามะลิ สรรพคุณเคล็ดลับนั้นคืออะไร มาหาคำตอบกันได้ที่นี่
การชงชามะลิ
- นำชามะลิประมาณ 10 กรัมใส่แก้ว เทน้ำร้อนลงไปแล้วเทออกเพื่อล้างชา
- เทน้ำร้อนลงไปอีกครั้งปริมาณ 300 มิลลิลิตร โดยครั้งนี้แช่ไว้นาน 3-5 นาที
- เมื่อครบเวลาแล้วกรองดอกมะลิออก
- นำน้ำแข็งใส่ภาชนะเตรียมเอาไว้ปริมาณ 1 ส่วน 4 ของภาชนะ จากนั้นนำแก้วชามะลิไปวางในภาชนะที่ใส่น้ำแข็ง
- เติมน้ำแข็งลงภาชนะจนเต็ม วางทิ้งไว้ 30 นาที
- นำน้ำชามะลิเย็นที่ได้เทใส่กระบอกเช็ค จากนั้นเติมน้ำเชื่อมลงไปตามความชอบ
- ปิดฝาแก้ว เขย่าให้เข้ากัน เทใส่แก้วพร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับการชงชาดอกมะลิ
หากต้องการชงชามะลิให้มีกลิ่นหอมนาน สิ่งที่ควรทำคือ “การน็อคชา” ซึ่งจะเป็นวิธีที่ใช้กับชามะลิเท่านั้น ไม่นิยมใช้กับชาดอกไม้ประเภทอื่นๆ ส่วนกรรมวิธีก็ไม่ยากเพียงแค่นำน้ำชามะลิที่ชงแล้วไปวางในภาชนะที่ใส่น้ำแข็งเอาไว้ วางไว้ประมาณ 30 นาทีหรือจนกว่าน้ำชาจะเย็น ช่วยชูรสและกลิ่นของชา ทำให้ผู้ดื่มได้สัมผัสกับความเป็นมะลิกันแบบเต็มจมูก
นอกเหนือจากน้ำชามะลิสูตรทั่วไปแล้ว ยังสามารถนำชาดอกมะลิมารังสรรค์เมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเพิ่มเติมได้อีกมากมาย เช่น ชามะลิน้ำอ้อยสด ชามะลิองุ่น ชามะลิสตรอว์เบอร์รี่และอื่นๆ ใครชอบดื่มน้ำผลไม้แล้วอยากได้ความหอมของชามะลิก็ลองผสมกันได้ตามความต้องการเลย เพิ่มความอร่อยด้วยบุก มุก ฟรุตสลัดหรือชิ้นผลไม้สดได้ตามใจชอบ ก็จะได้เครื่องดื่มแสนอร่อย ดื่มแล้วสดชื่นในช่วงอากาศร้อนๆ กันแล้ว
บทสรุปการชงชามะลิ
และนี่ก็เป็นเคล็ดลับการชงชาดอกมะลิที่เราได้เรียบเรียงมาฝากกัน ใครที่ชอบดื่มชาประเภทนี้แล้วรู้สึกชงชาแล้วไม่ค่อยได้กลิ่นหอมก็ลองนำวิธีการข้างต้นไปใช้กันดูได้ ช่วยให้ชาหอมอร่อยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้การดื่มชามะลิให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่นั้นจะต้องเลือกใช้ชาที่ผลิตจากดอกมะลิปลอดสารพิษและต้องผลิตด้วยกรรมวิธีที่สะอาดเท่านั้น จะได้ดื่มด่ำกับกลิ่นหอมของมะลิได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีตกค้างนั่นเอง